อุปกรณ์ PASS หรือที่เรียกว่า Personal Alert Safety System, Distress Signal Unit (DSU) หรือ Automatic Distress Signal Unit (ADSU) เป็นเครื่องมือด้านความปลอดภัยที่จำเป็นซึ่งนักดับเพลิงใช้เป็นหลัก บทบาทหลักคือการปกป้องผู้ที่เข้าสู่สภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น อาคารที่ถูกไฟไหม้
อุปกรณ์นี้มีบทบาทสำคัญในการส่งสัญญาณเมื่อนักดับเพลิงตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายและต้องการความช่วยเหลือทันที
อุปกรณ์ PASS ทำงานอย่างไร
อุปกรณ์ PASS เป็นอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดที่ทำงานด้วยแบตเตอรี่ ซึ่งติดอยู่กับสายรัดเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังบรรจุในตัว (SCBA) ของนักดับเพลิง เมื่อเปิดใช้งาน มันจะส่งเสียงดังแหลมประมาณ 95 เดซิเบล เพื่อแจ้งเตือนบุคคลใกล้เคียงว่านักดับเพลิงต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เสียงของอุปกรณ์ PASS ที่เปิดใช้งานจะเป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายรุ่นแรงที่นักดับเพลิงกำลังเจอ กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยเหลือนักดับเพลิงที่ประสบปัญหา ในสหรัฐอเมริกา มาตรฐานสำหรับอุปกรณ์ PASS ได้รับการกำหนดโดย National Fire Protection Association ใน NFPA 1982 โดยมีใจความสำคัญดังนี้
- เกณฑ์การออกแบบ : ความทนทานและความทนทานต่อสภาวะที่รุนแรง เช่น ความร้อนและน้ำ ทำให้มั่นใจได้ถึงการทำงานที่เชื่อถือได้ในสถานการณ์การดับเพลิง
- ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ : ระบุความดังของเสียงแจ้งเตือน (ประมาณ 95 เดซิเบล) อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และเงื่อนไขการเปิดใช้งาน
- เกณฑ์วิธีการทดสอบ : การทดสอบที่เข้มงวดภายใต้เงื่อนไขที่เลียนแบบสถานการณ์การดับเพลิง รวมถึงอุณหภูมิสูง การแช่น้ำ และผลกระทบทางกายภาพต่างๆ
- ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ : มุ่งเน้นไปที่ความง่ายในการเปิดใช้งาน/ปิดใช้งาน ออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายใต้ความเครียดและใช้งานได้แม้สวมถุงมือดับเพลิง
วิวัฒนาการของอุปกรณ์ PASS
ฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ PASS ได้รับการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ในขั้นต้น อุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นต้องเปิดใช้งานด้วยตนเอง ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เมื่อนักดับเพลิงพบว่าตนเองหลงทางหรือติดอยู่กับที่ เช่น โดนโครงสร้างของอาคารหล่นทับระหว่างการปฏิบัติงาน หรือถูกไฟล้อม
อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ PASS สมัยใหม่ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์การเปิดใช้งานอัตโนมัติไว้ด้วย เช่น หากอุปกรณ์ไม่ตรวจจับการเคลื่อนไหวเป็นเวลา 30 วินาที อุปกรณ์จะส่งเสียงเตือนโดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่นักดับเพลิงอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
เพื่อป้องกันการเตือนที่ผิดพลาด อุปกรณ์จะส่งเสียงเตือนเบาๆ ไม่กี่วินาทีก่อนเปิดใช้งานเต็มรูปแบบ เพื่อให้นักดับเพลิงที่อยู่กับที่แต่ยังปลอดภัยและไม่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือสามารถปิดเครื่องก่อนได้
การใช้งานกับอุปกรณ์นิรภัย
อุปกรณ์ PASS รุ่นเก่าจำเป็นต้องเปิดใช้งานด้วยมือโดยนักดับเพลิงก่อนเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับระบบกุญแจ โดยการนำกุญแจออกจาก PASS และกุญแจจะถูกทิ้งไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ควบคุมการเข้าออกนอกพื้นที่อันตราย อุปกรณ์สามารถปิดใช้งานได้โดยการใส่กุญแจนี้อีกครั้งเท่านั้น
การออกแบบในสมัยใหม่ได้รวมอุปกรณ์ PASS เข้ากับระบบ SCBA โดยจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดใช้งานการจ่ายอากาศ SCBA หรือเมื่อถอด SCBA ออกจากโครงยึด อุปกรณ์ที่ทันสมัยเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เปิดใช้งานได้ง่ายแม้สวมถุงมือ และปลอดภัยในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีวัสดุไวไฟหรือระเบิดได้
ประวัติของอุปกรณ์ PASS
ความสำคัญของอุปกรณ์ PASS ได้รับการเน้นย้ำอย่างมากหลังเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน 2001 หลังจากการล่มสลายของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ อุปกรณ์ PASS ที่เปิดใช้งานจำนวนมากส่งเสียงอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งเป็นของนักดับเพลิง 343 คน จากหน่วยดับเพลิงนครนิวยอร์กที่เสียชีวิตในวันนั้น เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของอุปกรณ์ดังกล่าวในด้านความปลอดภัยของนักผจญเพลิง และได้มีการพัฒนาให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในเวลาต่อมา
บทสรุป
อุปกรณ์ PASS เป็นข้อพิสูจน์ถึงความก้าวหน้าในเทคโนโลยีความปลอดภัย ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความปลอดภัยของผู้เชี่ยวชาญด้านการดับเพลิง การพัฒนาจากระบบที่เปิดใช้งานด้วยตนเองไปสู่ระบบความปลอดภัยที่ซับซ้อนและใช้งานร่วมกับ SCBA สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการรับรองความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายและคุกคามถึงชีวิตอย่างกล้าหาญ
นอกจากนี้ การมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการดับเพลิงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ผู้ประกอบการ หรือ โรงงานอุตสาหกรรม ควรให้พนักงานได้รับการอบรมดับเพลิง เพื่อการฝึกฝนให้กับบุคลากรในการตอบสนองอย่างเหมาะสมเมื่อเกิดเหตุการณ์เพลิง ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติในกรณีฉุกเฉิน เช่น การหนีออกจากพื้นที่เสี่ยง การใช้อุปกรณ์คุ้มครอง และการใช้วิธีการจัดการเพลิงอย่างเฉพาะเจาะจง