เมื่อเกิดเพลิงไหม้ หลายครั้งเราพบว่าไฟสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็วราวกับควบคุมไม่ได้ ไฟอาจเผาผลาญสิ่งปลูกสร้างหรือขยายตัวจากจุดเล็ก ๆ ไปทั่วพื้นที่ภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้หลายคนสงสัยว่าเหตุใดบางกรณีไฟจึงลุกลามรวดเร็วจนน่าตกใจ
สาเหตุที่เพลิงไหม้สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วนั้นมีหลายปัจจัย เช่น ชนิดของเชื้อเพลิง องค์ประกอบของอาคาร การไหลเวียนของอากาศ และสภาพแวดล้อมในขณะเกิดเหตุ เมื่อมีปัจจัยเหล่านี้รวมกัน ไฟสามารถเผาไหม้ได้รุนแรงจนกลายเป็น “Flashover” หรือ “Backdraft” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ไฟระเบิดหรือแผ่ขยายในพริบตา
ปัจจัยที่มีผลต่อการลุกลามของไฟ
ไฟไหม้สามารถลุกลามได้เร็วผิดปกติจากหลายปัจจัยหลัก ได้แก่ องค์ประกอบของไฟ (Fire Triangle) ซึ่งประกอบด้วย ออกซิเจน (Oxygen) เชื้อเพลิง (Fuel) และแหล่งกำเนิดความร้อน (Heat Source) นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างของอาคารก็ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ
1. ปริมาณออกซิเจนในอากาศ
ออกซิเจนเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการเผาไหม้ โดยปกติในบรรยากาศมีออกซิเจนประมาณ 21% หากปริมาณออกซิเจนสูงขึ้น อัตราการเผาไหม้จะเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น ในอาคารที่มีระบบระบายอากาศดีหรือมีการรั่วไหลของออกซิเจนจากถังอัดแรงดัน ไฟจะลุกลามเร็วกว่าปกติ
2. ชนิดและปริมาณเชื้อเพลิง
ชนิดของเชื้อเพลิงส่งผลโดยตรงต่อความรุนแรงของไฟ เช่น เชื้อเพลิงที่เป็นของแข็ง เช่น ไม้ กระดาษ พลาสติก หรือเชื้อเพลิงเหลว เช่น น้ำมันเบนซินและแอลกอฮอล์ มีอัตราการเผาไหม้ที่แตกต่างกัน วัสดุที่ติดไฟง่าย เช่น โฟมโพลียูรีเทน สามารถทำให้ไฟลุกลามเร็วผิดปกติ
3. อุณหภูมิและแหล่งกำเนิดความร้อน
อุณหภูมิที่สูงขึ้นช่วยเพิ่มอัตราการเกิดไฟ เช่น ในอากาศร้อนและแห้ง ไฟสามารถติดและลุกลามได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดความร้อน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า และเตาแก๊ส อาจเป็นตัวเร่งให้ไฟขยายตัวได้เร็วขึ้น
ปรากฏการณ์ที่ทำให้ไฟลุกลามเร็วผิดปกติ มีอะไรบ้าง
1. Flashover (แฟลชโอเวอร์)
แฟลชโอเวอร์เป็นจุดที่ไฟไหม้ภายในห้องเกิดการลุกลามอย่างรวดเร็วทั้งห้องพร้อมกัน เนื่องจากวัสดุที่อยู่ในห้องสะสมความร้อนจนถึงจุดติดไฟของตัวเอง ปรากฏการณ์นี้มักเกิดขึ้นภายใน 3-5 นาทีหลังจากเกิดไฟไหม้ ทำให้โอกาสรอดชีวิตของผู้ที่อยู่ภายในลดลงอย่างมาก
2. Backdraft (แบ็คดราฟต์)
เกิดขึ้นเมื่อไฟไหม้ในพื้นที่ปิดทำให้ออกซิเจนหมดไป แต่ยังมีควันและก๊าซติดไฟสะสมอยู่ เมื่อมีการเปิดประตูหรือหน้าต่าง ออกซิเจนใหม่เข้าสู่พื้นที่ ทำให้เกิดการระเบิดของไฟที่รุนแรง ซึ่งสามารถทำให้ไฟลุกลามเร็วผิดปกติ
3. Firestorm (พายุไฟ)
พายุไฟเกิดขึ้นเมื่อไฟไหม้ในพื้นที่ขนาดใหญ่มีความรุนแรงมากจนสามารถสร้างกระแสลมของตัวเอง ทำให้ไฟลุกลามด้วยความเร็วสูง พบได้ในกรณีไฟป่าและไฟไหม้ในเมืองขนาดใหญ่ เช่น เหตุการณ์ไฟไหม้เมืองโตเกียวในสงครามโลกครั้งที่สอง
อิทธิพลของโครงสร้างอาคารและสิ่งแวดล้อม ต่อการลุกลามของไฟ
1. วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง
อาคารที่ใช้วัสดุไวไฟ เช่น ไม้ หรือวัสดุสังเคราะห์บางชนิด จะทำให้ไฟลุกลามได้เร็วขึ้น ในขณะที่อาคารที่สร้างด้วยคอนกรีตหรือโลหะมีแนวโน้มที่จะต้านทานไฟได้ดีขึ้น
2. ระบบระบายอากาศและช่องเปิด
อาคารที่มีการออกแบบช่องเปิดมาก เช่น หน้าต่างและระบบระบายอากาศที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ออกซิเจนไหลเข้าสู่ไฟและเร่งการเผาไหม้
3. สภาพแวดล้อมภายนอก
สภาพอากาศ เช่น ลมแรง ความชื้นต่ำ และอุณหภูมิสูง เป็นปัจจัยที่ทำให้ไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น ไฟป่าที่เกิดในช่วงฤดูแล้งมักจะลุกลามรวดเร็วเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้
วิธีลดความเสี่ยงของการลุกลามไฟ มีอะไรบ้าง
- ออกแบบอาคารให้มีความปลอดภัยจากไฟไหม้ เช่น การใช้วัสดุทนไฟ ติดตั้งระบบป้องกันไฟ เช่น สปริงเกอร์ และออกแบบระบบระบายอากาศที่เหมาะสม
- จัดเก็บสารไวไฟอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงการเก็บสารเคมีหรือเชื้อเพลิง ในพื้นที่ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ
- ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันไฟไหม้ เช่น การฝึกอบรมการใช้อุปกรณ์ดับเพลิง และการอพยพฉุกเฉิน
- ติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยไฟไหม้ เช่น เครื่องตรวจจับควัน และอุณหภูมิ ซึ่งคุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกันประเภทระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ที่เหมาะสมกับอาคารของคุณ
นอกจากนี้การมีทักษะการเอาตัวรอดจากอัคคภัย หรือเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ ก็เป้นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ ทุกคนต้องทราบวิธ๊ปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันตัวเอง และป้องกันเหตุไฟไหม้หากพบเจอให้ขณะที่ยังไม่ลุกลาม มากสามารุดับได้ทันจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม
การอบรมดับเพลิงขั้นต้น จึงเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับโรงงาน ต้องจัดอบรมให้กับพนักงานไม่น้อยกว่า 40% ของพนักงานทั้งหมด
สมัครอบรมดับเพลิงขั้นต้น จาก เซฟตี้.com พร้อมวิทยากรมืออาชีพ และอุปกรณ์ให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกการใช้งานจริง ปฏิบัติจริงทุกคน มอบวุฒิบัตรหลังผ่านการอบรม อ่านเพิ่มเติมที่ > อบรมดับเพลิงขั้นต้น กฎหมาย
สรุป
ไฟสามารถลุกลามอย่างรวดเร็วผิดปกติจากหลายปัจจัย ทั้งปริมาณออกซิเจน ชนิดของเชื้อเพลิง อุณหภูมิ และโครงสร้างของอาคาร รวมถึงปรากฏการณ์ต่าง ๆ เช่น Flashover และ Backdraft การเข้าใจกลไกเหล่านี้ช่วยให้สามารถออกแบบมาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงจากไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
- Babrauskas, V. (2003). Ignition Handbook. Fire Science Publishers.
- Buchanan, A., & Abu, A. K. (2017). Structural Design for Fire Safety. John Wiley & Sons.
- Drysdale, D. (2011). An Introduction to Fire Dynamics. John Wiley & Sons.
- Grimwood, P. (2008). Euro Firefighter. Fire Protection Publications.
- Keeley, J. E. (2012). Fire in Mediterranean Ecosystems. Cambridge University Press.
- Pyne, S. J. (2019). Fire: A Brief History. University of Washington Press.
บทความที่น่าสนใจ
- รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหมวกดับเพลิง
- รองเท้าป้องกันไฟ ที่นักดับเพลิงต้องใช้
- NFPA 20 มาตรฐานสำหรับการติดตั้งเครื่องสูบน้ำดับเพลิง
- อัคคีภัย คืออะไร