16 พฤศจิกายน 2567
ในยุคดิจิทัลที่งานส่วนใหญ่มักผูกติดกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หนุ่มออฟฟิศจำนวนมากต้องเผชิญกับการนั่งทำงานเป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง หนึ่งในนั้นคือ “ออฟฟิศซินโดรม” โรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่เป็นผลสะสมจากพฤติกรรมการนั่งทำงานที่ไม่ถูกต้องและขาดการดูแลร่างกายอย่างเหมาะสม
ท่านั่งทำงานที่เสี่ยงต่อออฟฟิศซินโดรม
นั่งไขว่ห้าง : ท่านั่งยอดนิยมที่หลายคนมองว่าเท่ แต่รู้หรือไม่ว่าการนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานานจะส่งผลให้เส้นเลือดถูกกดทับ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เกิดอาการชา และส่งผลเสียต่อกระดูกสันหลัง เช่น ปวดหลังเรื้อรัง กระดูกสันหลังคดงอ และเสี่ยงต่อหมอนรองกระดูกเสื่อม
นั่งหลังค่อม : การนั่งหลังค่อมทำให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากเกินไป เสี่ยงต่ออาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ อีกทั้งยังทำให้การหายใจไม่เต็มที่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและสุขภาพโดยรวม
นั่งก้มหน้า : การก้มหน้ามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อคอ บ่า และไหล่ทำงานหนักจนเกิดอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสายตา เช่น สายตาสั้น ปวดตา และตาแห้ง
นั่งไม่เต็มก้น : การนั่งโดยไม่วางน้ำหนักตัวให้เต็มก้น หรือการนั่งทิ้งน้ำหนักไปด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหลังทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่ออาการปวดหลังและปวดเอว
นั่งเท้าลอย : การนั่งโดยที่เท้าไม่ติดพื้น ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เกิดอาการชา เท้าบวม และเพิ่มโอกาสของอาการปวดหลัง
วิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรม
เพื่อหลีกเลี่ยงอาการจากโรคออฟฟิศซินโดรม หนุ่มออฟฟิศควรให้ความสำคัญกับพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพ ดังนี้
- ปรับระดับเก้าอี้และโต๊ะทำงาน ให้เหมาะสมกับสรีระ เช่น หน้าจอควรอยู่ในระดับสายตา เท้าควรวางราบกับพื้น และข้อศอกควรตั้งฉากกับโต๊ะทำงาน
- ลุกขึ้นยืนหรือเดินยืดเส้นยืดสายทุกชั่วโมง การเปลี่ยนอิริยาบถช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
- เลือกเก้าอี้ที่รองรับสรีระ ควรใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงที่สามารถปรับระดับได้ และช่วยรองรับหลังส่วนล่าง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ การเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลัง คอ และไหล่ ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการปวดและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
สุขภาพดีเริ่มต้นที่ตัวคุณ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและเลือกท่านั่งที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเพิ่มความสุขและประสิทธิผลในการทำงาน อย่าลืมใส่ใจสุขภาพของตัวเอง เพราะสุขภาพดีคือ กุญแจสำคัญของชีวิตที่มีคุณภาพ
แหล่งที่มา : https://www.sanook.com/men/89261/