เยี่ยมชมเว็บไซต์บทความของเรา พร้อมค้นหาคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานที่อ่านได้ฟรี!
ประเมินความเสี่ยงการใช้รถยกในโรงงาน

ประเมินความเสี่ยงการใช้รถยกในโรงงาน ช่องว่างของแผนความปลอดภัย

by pam

ในบริบทของอุตสาหกรรมการผลิตและคลังสินค้า “แผนความปลอดภัย” ถือเป็นหัวใจหลักของการดำเนินงาน แต่ในหลายกรณี การวางแผนมักให้ความสำคัญกับเครื่องจักรขนาดใหญ่และอันตรายเฉพาะด้าน เช่น เครื่องกลหนักหรือการทำงานในที่อับอากาศ ขณะที่ “รถยก” ซึ่งเป็นเครื่องจักรเคลื่อนที่ขนาดเล็กที่ทำงานควบคู่กับคนแทบตลอดเวลา กลับกลายเป็นจุดบอดสำคัญที่ถูกมองข้าม

รถยก คืออะไร

รถยก หรือ Forklift ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในระบบโลจิสติกส์ภายในโรงงาน ใช้สำหรับยก เคลื่อนย้าย และจัดเก็บสินค้าในพื้นที่ต่างๆ อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จุดเด่นของรถยกคือ สามารถเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา ต่างจากเครื่องจักรประเภทอื่นที่ติดตั้งอยู่กับที่ เช่น เครื่องกลึง เครื่องปั๊ม หรือสายพานลำเลียง ซึ่งถูกจำกัดด้วยตำแหน่งในการติดตั้ง

ลักษณะเฉพาะนี้ของรถยกเป็นดาบสองคม แม้จะช่วยให้การขนส่งภายในคล่องตัวขึ้น แต่ก็เพิ่ม ความไม่แน่นอนในการเคลื่อนไหว และเสี่ยงต่อการชน พุ่งตก หรือทับคน ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจควบคุมได้ด้วยแผนผังการเดินที่ตายตัวเพียงอย่างเดียว

สถิติอุบัติเหตุจากรถยก: ปัญหาที่ถูกละเลย

ข้อมูลจากการวิจัยและรายงานทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศสะท้อนภาพความเสี่ยงจากรถยกอย่างชัดเจน

สถานการณ์ในประเทศไทย

จากรายงานของ กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พบว่าในแต่ละปีมีอุบัติเหตุเกี่ยวข้องกับรถยกหลายร้อยกรณี โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ หรืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งใช้รถยกในปริมาณมากในการลำเลียงชิ้นส่วนต่างๆ

อุบัติเหตุที่พบบ่อย ได้แก่:

  • รถยกชนคนเดินเท้าในทางเดินร่วม

  • รถยกพลิกคว่ำจากการยกของน้ำหนักเกิน

  • การถอยหลังโดยไม่สังเกตหลังรถ ทำให้ชนคนหรือของ

สถานการณ์ในต่างประเทศ

Occupational Safety and Health Administration (OSHA) ของสหรัฐอเมริกา รายงานว่าในแต่ละปีมี อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยกมากกว่า 85 คนเสียชีวิต และมากกว่า 34,900 คนได้รับบาดเจ็บร้ายแรง โดยส่วนใหญ่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ และความประมาทในการใช้งาน

ข้อมูลจาก Health and Safety Executive (HSE) ของสหราชอาณาจักรระบุว่าอุบัติเหตุจากรถยกเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตในที่ทำงาน และราว 25% ของอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับยานพาหนะในโรงงาน มาจากรถยก

พฤติกรรมเสี่ยงการใช้รถยก

พฤติกรรมเสี่ยงการใช้รถยก ที่แฝงอยู่ในการทำงานประจำวัน

สิ่งที่ทำให้รถยกเป็น “ผู้ร้ายเงียบ” คือพฤติกรรมบางอย่างที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายแต่แฝงความเสี่ยงไว้สูง ดังนี้:

1. ความเคยชินกับพื้นที่

ผู้ขับขี่มักคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมมากเกินไป จนละเลยการตรวจสอบสิ่งกีดขวางหรือบุคคลในบริเวณใกล้เคียง

2. การทำงานร่วมกับคนเดินเท้า

ในโรงงานหรือคลังสินค้าที่ไม่มีการแยกทางเดินรถยกกับคน อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวินาที

3. การใช้งานเกินพิกัดหรือเร็วเกินไป

พนักงานบางคนเร่งรีบเพราะงานเร่ง จึงขับรถเร็ว หรือยกของน้ำหนักเกินจากที่รถระบุไว้ ส่งผลให้รถพลิกคว่ำ

4. การละเลยสัญญาณเตือน

แม้รถยกสมัยใหม่จะมีไฟและเสียงเตือน แต่ผู้ใช้งานมักปิดเสียงหรือไม่ใส่ใจต่อเสียงเตือน

5. การขาดการอบรมซ้ำ

แม้พนักงานจะได้รับการอบรมเบื้องต้นแล้ว แต่ขาดการอบรมทบทวน ทำให้ลืมข้อควรปฏิบัติ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว

ตารางสรุป: จุดเสี่ยงที่มักพบจากการใช้รถยกในโรงงาน

ประเด็น พบเจอบ่อย มีความเสี่ยงสูง มักถูกมองข้าม
ขับเร็วเกินกำหนด
ขับโดยไม่มีใบอนุญาต
การไม่แยกทางคนกับรถ
ใช้รถยกเก่าขาดการตรวจสอบ
ขับในพื้นที่แคบหรือมุมอับ
ไม่มีระบบเตือนภัยอัตโนมัติ
ไม่มีการอบรมทบทวน

แนวทางป้องกันอันตรายจากรถยก

เพื่อให้แผนความปลอดภัยมีความรอบด้านมากขึ้น ควรมีการออกแบบนโยบายและการบริหารจัดการรถยกอย่างเป็นระบบ ดังนี้

  • แยกเส้นทางเดินรถและทางเดินคนให้ชัดเจน

  • กำหนดความเร็วรถยกในแต่ละโซน

  • ติดตั้งกระจกโค้งเว้าตามมุมอับ

  • อบรมรถยก ตามประเภทใช้งานให้กับพนักงานและมีการอบรมทบทวนการใช้งานรถยกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

  • บำรุงรักษา ตรวจสอบรถยกตามระยะอย่างสม่ำเสมอ

  • ติดตั้งระบบกล้องหรือสัญญาณเตือนถอยหลัง

  • มีการประเมินความเสี่ยงเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับรถยก

สรุป

รถยกคือฟันเฟืองสำคัญในโรงงาน แต่หากละเลยความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ ก็อาจกลายเป็น “ผู้ร้ายเงียบ” ที่สร้างความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน การบูรณาการรถยกเข้าไปในแผนความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่คือการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ยั่งยืนในองค์กร


อ้างอิง

  1. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2566). รายงานสถิติอุบัติเหตุจากการทำงาน. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก: https://osh.labour.go.th

  2. Occupational Safety and Health Administration (OSHA). (2023). Forklift Safety. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก: https://www.osha.gov/forklift

  3. Health and Safety Executive (HSE), UK. (2023). Vehicle safety in the workplace. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก: https://www.hse.gov.uk/workplacetransport

  4. สมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย). (2565). คู่มือความปลอดภัยในการใช้รถยก.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง